บทความ

1.ฮอกไกโด (Hokkaido / 北海道)

รูปภาพ
1.   ป้อมโงเรียวกาคุ ( Fort Goryokaku ) , เมือง Hakodate ป้อมโงเรียวกาคุ หรือ ป้อมดาว 5 แฉก ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ ( Hakodate) เหตุที่เรียกกันว่าป้อมดาว 5 แฉก     ก็เพราะบริเวณป้อม หากมองจากมุมสูงจะมีลักษณะคล้ายกับดาวแบบตะวันตก  ป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีสุดท้ายของยุคเอโดะเพื่อป้องกันการคุกคามของมหาอำนาจตะวันตก บริเวณตรงใจกลางของป้อม คือที่ทำการของผู้สำเร็จราชการที่บริหารเมืองฮอกไกโดในช่วงยุคโชกุนแต่เมื่อไม่ได้ใช้งานแล้วจึงได้มีการบูรณะอาคารและปรับปรุงทัศนียภาพให้กลายเป็นสวนสาธารณะสำหรับชมซากุระที่จะบานพร้อมกันในช่วงเดือนพฤษภาคม (ฮอกไกโดเป็นเกาะอยู่ด้านบนสุด ทำให้มีดูร้อนช้ากว่าที่อื่น ซากุระก็จะบานช้ากว่าที่อื่นในญี่ปุ่นด้วย)  นอกจากนี้ป้อมโงเรียวกาคุ ยังมีหอคอยโงเรียวกาคุที่สูง 90 เมตร สำหรับชมวิวรอบ ๆ ป้อมโดยหอคอยถูกจัดสร้างขึ้นในปี 2006 ด้านล่างหอคอย มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และนิทรรศการเกี่ยวกับการจัดตั้งป้อมแห่งนี้อีกด้วย เวลาทำการ :  เปิดให้บริการทุกวัน เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เวลา 08.00 น.- 19.00 น. เดือนตุลาคม – เดือนเมษายน 09.00 น.- 18.00 น. ค่าเข้าชม :  บร

2.คันโต (Kanto / 関東)

รูปภาพ
  1. ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ ตั้งอยู่ที่เมืองคาวาโกเอะ ในจังหวัดไซตามะ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี มีซุ้มประตูโทริอิอยู่ด้านหน้า ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่สถิตของ “เทพเจ้าทั้ง 5” ที่ให้โชคเรื่องความรัก รวมถึงเรื่องของการงานและความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงอีกด้วย ศาลเจ้าแห่งนี้มีสิ่งน่าสนใจต่างจากศาลเจ้าทั่วไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เซียมซีรูปปลาไท ที่ทำนายเรื่องความรักโดยเฉพาะ ซุ้มแขวนไม้อธิฐาน ลำธารศักสิทธิ์สำหรับขจัดสิ่งชั่วร้าย ซุ้มกระดิ่งลมในฤดูร้อน ต้นไม้ศักสิทธิ์ที่คู่รักนิยมมาเดินวนเป็นเลข 8 เพื่อให้มีความรักที่ยืนยาว เสาโทริอิหินอายุหลายร้อยปี และเสาโทริอิไม้สีแดงอันใหญ่ที่เคยขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น  ด้วยความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่าง เวลาทำการ : 09.00-17.00 น. 2. วัดเซนโจจิ (Sensoji Temple) วัดเซนโซจิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple) คือวัดใหญ่ในย่านอ

3.คันไซ (Kansai / 関西)

รูปภาพ
1. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ปราสาทโอซาก้า หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวโอซาก้าจะต้องแวะมาเยี่ยมชม ปราสาทแห่งนี้เปรียบเสมือนภาพที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์ของเมือง ตัวปราสาทมีถึง 8 ชั้น ห้อมล้อมด้วยกำแพงหิน คูน้ำ ไปจนถึงสวนนิชิโนมารุ (Nishinomaru Garden) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มักจะเห็นผู้สูงอายุมาเดินออกกำลังกายบ้าง หนุ่มสาวมาเดินเล่นชมนกชมไม้บ้าง  เด็กนักเรียนมาฝึก กีฬาบ้าง ถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำคัญแห่งหนึ่งของชาวโอซาก้าเลยก็ว่าได้      ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซากุระมากกว่า 600 ต้นผลิบานพร้อมๆ กัน นับเป็นการเพิ่มระดับความงดงามกับให้ปราสาทหลายเท่า เรียกให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชื่นชมความงาม เป็นอีกหนึ่งภาพที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหน สายถ่ายรูปได้รูปสวยๆ กลับไปอย่างแน่นอน เวลาทำการ   : 09.00 – 17.00 น. เปิดให้เข้าได้จนถึง 16.30 น. (ขยายเวลาเปิดทำการในบางช่วงในฤดูร้อนเเละฤดูใบไม้ผลิ)  ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กอายุต่ำว่า 15 ปี เข้าฟรี! 2.ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ หรือศาลเจ้าแดง (Fushimi Inari Shrine) ศาลเจ้าเทพอินาริ หรือที่คนไทยมักเรียกกันว่าศาลเจ้าแดง

4.คิวชู (Kyushu / 九州)

รูปภาพ
 1.ภูเขาอะโสะ (Mount Aso) ภูเขาลูกใหญ่ที่ยังคงคุกกรุ่นอยู่แถมยังเป็น 1 ในภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย มีลักษณะเป็นหลุมภูเขา ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของพื้นผิวนั่นเอง สึ่งที่นี่ก็มีสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือ  นากาดาเกะ หนึ่งในยอดเขาทั้งห้าที่ล้อมรอบ  ภูเขาอะโสะ สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถยนต์ กระเช้าลอยฟ้า หรือจะเดินก็ได้ นอกจากนี้ยังมีวิวธรรมชาติที่สามารถมองเห็นได้จากบนภูเขาอีกด้วย แต่อยากให้ระมัดระวังมากๆ เพราะถ้าภูเขาไฟมีก๊าซพิษออกมามากเกินไปอาจจะก่อให้เกิดอันตายได้ หรือถ้าจะมีการปะทุล่ะก็ ขอให้เลี่ยงไปก่อน ดังนั้นควรเช็คให้ดีก่อนว่าสามารถไปได้ช่วงไหนบ้าง แต่ถ้าสถานการณ์ปกติก็สามารถเที่ยวชมความสวยงามได้อย่างเต็มที่เลย เวลาทำการ : 9.00 น.- 17.00 น. (รอบสุดท้าย 16.30 น.) 2.สวนสาธารณะมาอิซุรุ (Maizuru Park) สวนสาธารณะมาอิซุรุ (Maizuru Park) คือ ซากปราสาทที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทฟุกุโอกะ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงกำแพงส่วนฐานกับป้อมปราการที่ถูกทิ้งร้างไปนาน และถูกปรับให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไว้สำหรับชมวิวของเมืองฟุกุโอกะ เป็นสวนขนาดเล็ก แต่ความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น และยังเป็นจุ

5.โอกินาว่า (Okinawa / 沖縄)

รูปภาพ
1. เกาะอิริโอโมเตะ ( Iriomote Island )    เกาะอิริโอโมเตะ (Iriomote Island) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะโอกินาว่า บนเกาะมีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าไม้เขียวขจี แม่น้ำ ชายหาด และท้องทะเล มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ทั้งการล่องเรือไปตามแม่น้ำ พายเรือคายัค ขึ้นเขาเดินป่า เที่ยวน้ำตก หรือไปเที่ยวชายหาดสวยๆ สน็อกเกิ้ลดูปลาก็ได้เช่นกัน  สำหรับใครที่ชอบการดำน้ำลึกบอกเลยว่าต้องถูกใจแน่ๆ เพราะที่นี่มีกิจกรรมสกูบ้าให้ไปว่ายน้ำเป็นเพื่อน ปลากระเบนราหู ที่จะมีค่อนข้างเยอะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงด้วยค่ะ ตอบโจทย์คนรักธรรมชาติอย่างแน่นอน เวลาเปิดทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน 2. เกาะโคอุริ ( Kouri Island ) เกาะโคอุริ (Kouri Island)  เกาะขนาดเล็กมีขนาดเพียง 8 ตารางกิโลเมตร สามารถเดินทางไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับเพราะมีสะพานเชื่อมระหว่างทางตอนเหนือของเกาะโอกินาว่าและเกาะโคอุริในระยะทางเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น  แม้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็มีจุดแลนด์มาร์คเจ๋งๆ อย่าง  หินรูปหัวใจ (Heart Rock)  หินขนาดใหญ่สองก้อนที่มีลักษณะคล้ายรูปหัวใจที่โผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำทะเลเป็นสถานที่โรแมนติกที่มีคู่รักมากมาย