2.คันโต (Kanto / 関東)

 1.ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine)



ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ ตั้งอยู่ที่เมืองคาวาโกเอะ ในจังหวัดไซตามะ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี มีซุ้มประตูโทริอิอยู่ด้านหน้า ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่สถิตของ “เทพเจ้าทั้ง 5” ที่ให้โชคเรื่องความรัก รวมถึงเรื่องของการงานและความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงอีกด้วย

ศาลเจ้าแห่งนี้มีสิ่งน่าสนใจต่างจากศาลเจ้าทั่วไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เซียมซีรูปปลาไท ที่ทำนายเรื่องความรักโดยเฉพาะ ซุ้มแขวนไม้อธิฐาน ลำธารศักสิทธิ์สำหรับขจัดสิ่งชั่วร้าย ซุ้มกระดิ่งลมในฤดูร้อน ต้นไม้ศักสิทธิ์ที่คู่รักนิยมมาเดินวนเป็นเลข 8 เพื่อให้มีความรักที่ยืนยาว เสาโทริอิหินอายุหลายร้อยปี และเสาโทริอิไม้สีแดงอันใหญ่ที่เคยขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น 

ด้วยความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่าง
เวลาทำการ : 09.00-17.00 น.


2.วัดเซนโจจิ (Sensoji Temple)



วัดเซนโซจิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple) คือวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะ
เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดในโตเกียว อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานและขึ้นชื่อ
ด้านความศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน จึงทำให้วัดแห่งนี้เป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น
และยังเป็นวัดดังที่นักท่องเที่ยวพากันมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก

จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ ยักษ์ 2 ตนยืนเฝ้าประตูทั้ง 2 ฝั่งหน้าวัด และโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่โดดเด่น
สะดุดตา เขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นว่า 雷 อ่านว่า “คามินาริ” แปลว่า สายฟ้า ประตูแห่งนี้จึงมีอีก
หนึ่งว่า “ประตูสายฟ้า” นั่นเอง
เวลาทำการ : 06.00 – 17.00 น. 
(เดือนตุลาคม-มีนาคม เปิด 06.30 น.)

3.จุดล่องเรือชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Ensoleille Sailing)


จุดล่องเรือชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนทะเลสาบแห่งนี้ต่างพากันมาล่องเรือชมธรรมชาติกันเป็นจำนวนมาก โดยเรือจะมี 2 ชั้น ชั้น 1 มีโต๊ะและโซฟาไว้สำหรับพักผ่อนระหว่างล่องเรือกันแบบชิลๆ ส่วนในวันที่อากาศดี ขอแนะนำให้นั่งบนชั้น 2 เพราะจะได้เพลิดเพลินไปกับฟูจิแบบ 360 องศา มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์สวยงามเกินบรรยาย สามารถนำเก้าอี้รถเข็นขึ้นมาได้สะดวกสบาย และยังพาสัตว์เลี้ยงแสนรักขึ้นมาได้อีกด้วย

ชื่นชมและถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้ไว้แล้ว ใครต้องการอัพรูปสวยๆ ลงโซเชียลไว้อวดคนทางบ้านก็หมดกังวลเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ เพราะบนเรือมีบริการ Wi-Fi ฟรี เรียกได้ว่าสะดวก ครบครัน คุ้มค่า คุ้มราคา ไม่แปลกใจที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นตลอดปี
เวลาทำการ : 09.00 – 16.30 น. เรือออกทุกๆ 30 นาที 
(เวลาทำการจะต่างกันไปตามฤดูกาล)
ค่าเข้าชม : แบบรายบุคคล ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน 
แบบกลุ่ม (15 คนขึ้นไป) ผู้ใหญ่ 900 เยน เด็ก 450 เยน

4.เอโดะ วันเดอร์แลนด์ (Edo Wonderland)


เอโดะ วันเดอร์แลนด์ สวนสนุกที่จำลองทิวทัศน์เมืองเก่าในสมัยเอโดะ ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิกิ ภายในสวนสนุกแห่งนี้จะมีการจำลองสถานที่สำคัญๆ ในสมัยเอโดะเอาไว้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้าน สะพาน ร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ โรงละครนินจา เเละโรงละครศิลปะประเพณีวัฒนธรรมสมัยเอโดะ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคเอโดะจริงๆ เลยก็ว่าได้ 

นอกจากทิวทัศน์เมืองเก่าเเล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมามายเลย ทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง การย้อมผ้า การแต่งตัวย้อนยุคในชุดต่างๆ เช่น นินจา ซามูไร เจ้าเมือง ชุดเกราะ และกิโมโน หรือจะทดลองเล่น การเล่นการ์ดเอโดะ ยิงธนู ปาดาวกระจาย ก็ดูน่าสนุกเหมือนกันนะ

ที่นี่ยังมีตัวละครพิเศษที่อาศัยอยู่ในสวนสนุกด้วยนะ ชื่อว่า เนี้ยน-มาเงะ ลักษณะเด่นก็คือร่างกายปุกปุย และมวยผมที่เป็นเอกลักษณ์ อย่าลืมไปถ่ายรูปกับตัวละครยอดนิยมแสนน่ารักนี้ เเละลิ้มลองอาหารเเสนอร่อยเมนูเลื่องชื่อในยุคเอโดะที่หาได้ยากมากๆ ในปัจจุบันกันด้วยนะ
เวลาทำการ : Summer Season (20 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน) 09.00 – 17.00 น. 
Winter Season (1 ธันวาคม – 19 มีนาคม) 09.30 – 16.00 น. *ปิดทุกวันพุธ
ค่าบริการ : One Day Pass ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 4,800 เยน เด็ก (6-12 ปี) 2,400 เยน 
Afternoon Pass (ตั้งเเต่ 13.00 น. หรือ 14.00 น.) ผู้ใหญ่ 4,100 เยน เด็ก 2,100 เยน 
*เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เข้าฟรี

5.สวนสนุกโยโกฮาม่าคอสโม่เวิลด์ (Yokohama Cosmo World)


สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด แหล่งรวมความบันเทิง เครื่องเล่น และกิจกรรมสนุกๆ มากมายแบบจัดเต็ม 
ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามริมทะเลของอ่าวโยโกฮาม่า (Yokohama Bay) มีจุดเด่นคือชิงช้าสวรรค์คอสโม (Cosmo Clock21) ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่และสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

ภายในแบ่งเป็น 3 โซนหลักๆ ได้แก่ โซน Wonder Amaze ที่มีเครื่องเล่นน่าตื่นเต้นหวาดเสียวหลายชนิด
โซน Kid Carnival ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ และโซน Burano Street ที่ตั้งอยู่ริมถนน มีเครื่องเล่นยอดฮิตอย่าง บ้านผีสิงและเมืองน้ำแข็งติดลบ 30 องศา

เข้าสวนสนุกได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู เดินชมวิวสวยๆ ทั่วสวนสนุกได้ฟรีๆ แต่ถ้าอยากเล่นเครื่องเล่นจะต้องซื้อตั๋ว เครื่องเล่นแต่ละชนิดราคาต่างกันไป อยู่ที่ 300-800 เยนเท่านั้น เหมาะสำหรับที่อยากลองเล่นสวนสนุกในญี่ปุ่น แต่ไม่อยากเสียค่าเข้าแพงๆ
เวลาทำการ : 11.00 – 20.00 น. *หยุดทุกวันพฤหัสบดี 
(เวลาอาจมีการเปลี่ยนเเปลงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID-19) 
ค่าบริการ : ค่าเข้าสวนสนุกฟรี เเต่ต้องซื้อตั๋วสำหรับเครื่องเล่นแต่ละชนิดแยกกัน 
โดยมีราคาตั้งแต่ 100-900 เยน









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

1.ฮอกไกโด (Hokkaido / 北海道)

4.คิวชู (Kyushu / 九州)

3.คันไซ (Kansai / 関西)

5.โอกินาว่า (Okinawa / 沖縄)